6 แนวคิดการทำธุรกิจแบบใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งประสบการณ์

6 แนวคิดการทำธุรกิจแบบใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งประสบการณ์
คนส่วนใหญ่มักคิดว่าธุรกิจกับประสบการณ์เป็นของคู่กัน ซึ่งปัจจุบันแนวความคิดดังกล่าวดูจะตกยุคไปแล้วด้วยกระแสแนวคิดยุคใหม่ในการทำธุรกิจแบบที่ไม่ต้องพึ่งพาประสบการณ์อีกต่อไป

ประสบการณ์ไม่ใช่เรื่องจำเป็น หากผู้ประกอบการมี "กึ๋น" ในการบริหารจัดการ
นับตั้งแต่อดีตเป็นต้นมาหลายครั้งที่ค่านิยมถูกนำไปผูกติดกับความเชื่อในแบบผิดๆ ที่มักจะไปบังคับช่องทางการทำธุรกิจให้แคบลงอยู่เสมอๆ ซึ่งความเชื่อเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเอาเสียเลยในยุคปัจจุบัน เพราะดูเหมือนจะเป็นการไปจำกัดความก้าวหน้าอย่างสิ้นเชิงสำหรับนักธุรกิจสายเลือดใหม่ โดยหนึ่งในความเชื่อที่เป็นข้อผูกมัดที่มิอาจทำให้ธุรกิจเกิดใหม่ขึ้นมาได้ก็คือ ความเชื่อในเรื่องของประสบการณ์ ที่มักจะได้รับการบอกกล่าวมาจากรุ่นสู่รุ่นว่าธุรกิจเป็นเรื่องของประสบการณ์ ผู้ใดไม่มีประสบการณ์ก็อย่าริอ่านไปทำธุรกิจโดยเด็ดขาด Timothy Ericson ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท CityRyde ได้ให้แนวทางที่จะปฏิวัติความคิดในเรื่องของประสบการณ์ไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจอีกต่อไป ซึ่งมีแนวคิดและวิธีปฏิบัติดังต่อไปนี้
1.การมองหาความต้องการของตลาดเป็นสิ่งแรก
การมองหาความต้องการของตลาดเป็นสิ่งแรกที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่พึงจะต้องกระทำโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับสิ่งประดิษฐ์และบริการ เพราะต้องเข้าใจในพื้นฐานของคนเราที่มีความต้องการที่ไม่เหมือนกันและเชื่อเถอะว่าไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการใดสามารถตอบสนองในความต้องการได้ครบและครอบคลุมไปได้ทุกกลุ่มผู้บริโภค ดังนั้นสิ่งนี้คือช่องทางและโอกาสทองของผู้ประกอบการมือใหม่ที่ต้องลงมาจับตลาดความต้องการของผู้บริโภคที่มักจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ และทำผลิตภัณฑ์ออกมาตอบสนองความต้องการในส่วนดังกล่าวให้จงได้ ซึ่งแนวทางนี้ไม่ต้องใช้ประสบการณ์เลยแม้แต่น้อย ที่ต้องใช้คือการทำรีเสิรช์ดีๆต่างหาก
2.เลือกทำธุรกิจอย่างชาญฉลาด
ผู้ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจหลายคนส่วนมากก็ไม่ได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจมาก่อน เพียงแต่พวกเขามีมุมมองที่ชาญฉลาดและรู้ว่าธุรกิจอะไรควรลงไปแข่ง ธุรกิจอะไรควรเว้นวรรค หรือที่เรียกว่าการประเมินโอกาสทางธุรกิจนั่นเอง โดยวิธีการประเมินธุรกิจเบื้องต้นที่ง่ายที่สุด คือ การประเมินศักยภาพของธุรกิจของตนเองและกลุ่มตลาดเป้าหมาย ตัวอย่างคือ พิจารณาปัจจัยทางด้านความพร้อม บุคคลากร เงินทุน การบริหาร บวกกับเรื่องของแนวทางการเติบโตของกลุ่มตลาดเป้าหมายที่จะลงไปจับ คู่แข่งขัน ความต้องการหลักของผู้บริโภค เมื่อนำปัจจัยทั้ง 2 ด้านมาวิเคราะห์ประกอบกันแล้วจะรู้เองว่าธุรกิจดังกล่าวมีความน่าลงทุนขนาดไหนที่จะส่งผลิตภัณฑ์และบริการลงไปแข่งด้วย จึงจะเรียกว่าเป็นการทำธุรกิจอย่างชาญฉลาดที่จะมีแต่ได้มากกว่าเสียนั่นเอง
3.สร้างความน่าเชื่อถือ
ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะมาช่วยลดจุดด้อยในเรื่องของการขาดประสบการณ์ได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะกับบริษัทหน้าใหม่ๆ คำถามที่มักจะพบเป็นประจำเมื่อเวลาไปขายงานต่อหน้าลูกค้าคือ ถ้าคุณไม่มีประสบการณ์อะไรเลยแล้วสิ่งไหนจะมาเป็นตัวช่วยบ่งชี้ว่าคุณจะสามารถทำงานให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่นำเสนอมาได้ ผู้ประกอบการหลายรายเมื่อได้ฟังคำถามนี้ก็แทบจะตกเก้าอี้เพราะไม่สามารถตอบคำถามที่ถูกยิงออกมาจากปากของลูกค้าได้ ซึ่งทางออกของปัญหาดังกล่าวคือการสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นในกรอบการดำเนินงานของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนเงินทุนสำรอง ยอดหมุนเวียนในกระแสเงินสด และที่สำคัญคือประวัติการทำงานที่ผ่านมาของบริษัทจะต้องไม่มีข้อผิดพลาดในเรื่องของปัญหาการฟ้องร้องและความล้มเหลวที่เกิดขึ้นจากการทำงานโดยเด็ดขาด เรียกได้ว่าเดินประวัติการทำงานของบริษัทให้เนียนเข้าไว้จะช่วยทดแทนจุดด้อยในเรื่องของการขาดประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี
4.อาศัยและพึ่งพาทรัพยากรแบบฟรีๆ
เพราะความที่ยังไม่มีประสบการณ์จึงต้องอาศัยความทุ่มเทและการประหยัดมัธยัสถ์เป็นหลัก ด้วยการไปศึกษาหาข้อมูลและคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจที่ให้บริการฟรีในรูปแบบเครือข่ายอย่างเช่นในโลกสังคมออนไลน์ (Social Media) เช่น ทวิตเตอร์และเฟสบุ๊ค ที่มักจะให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจแบบฟรีๆ ไม่เสียเงินเลยสักบาท บางครั้งอาจจะช่วยพิจารณาการวางแผนธุรกิจและช่วยกระจายข้อมูลในเรื่องของการทำงานให้ด้วย ซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือในลักษณะของมิตรภาพในรูปแบบเพื่อนที่ไม่สามารถตีราคาได้ นอกจากนี้การศึกษาหาข้อมูลการทำธุรกิจจากห้องสมุดต่างและการเข้าอบรมสัมมนาทางวิชาการตามมหาวิทยาลัยก็เป็นวิธีการช่วยเพิ่มความรู้ได้ดีอีกวิธีหนึ่ง
5.ใช้สื่อทางอินเตอร์เน็ตและเฟสบุคในการโฆษณาเพื่อความประหยัดและได้ผล
ผู้เริ่มประกอบธุรกิจในช่วงแรกๆต่างรู้ดีว่าเงินทุนเป็นสิ่งมีค่ามากที่สุด ดังนั้นการใช้จ่ายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องใช้ความระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษหรือเรียกง่ายๆว่าการประหยัดนั่นเอง โดยหนึ่งในแนวทางที่จะช่วยลดรายจ่ายได้เป็นอย่างดี คือ การใช้งานอินเทอร์เน็ตให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจสามารถค้นหาจากทางโลกออนไลน์ได้แทบทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นแนวทางการเขียนแผนทางธุรกิจ การดาวน์โหลดเอกสาร และที่สำคัญคือสถิติต่างๆที่มีเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตจะมีอยู่เป็นจำนวนมากและฟรี ถ้าไปว่าจ้างบริษัทที่รับทำสำรวจจะเสียค่าใช้จ่ายที่แพงมาก และไม่คุ้มค่ากับบริษัทที่เพิ่งเปิดใหม่ด้วย
6.ใช้จุดแข็งให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เครื่องมือที่สำคัญที่สุดของผู้ประกอบการในการลดปัญหาที่เกิดจากการขาดประสบการณ์ทางธุรกิจก็คือใช้จุดแข็งเข้าต่อสู้ โดยผู้ประกอบการจะต้องสำรวจตนเองก่อนว่ามีจุดแข็งในเรื่องอะไรที่จะสามารถไปต่อกรกับคู่แข่งขันบนท้องตลาดได้ อาจจะเป็นราคาที่ถูกกว่า คุณสมบัติที่ดีกว่า ฯลฯ แล้วพัฒนาเครื่องมือดังกล่าวนำมาใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้กับคู่แข่งที่มักจะอ้างในเรื่องของประสบการณ์เป็นจุดเด่น ซึ่งการใช้จุดแข็งของธุรกิจเข้ามาต่อสู้นี้จะต้องใช้ทักษะส่วนตัวของผู้ประกอบการค่อนข้างมากในการบริหารจัดการให้ตรงกับยุทธศาสตร์ที่วางเอาไว้

ประสบการณ์ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ประกอบการจะหาซื้อได้จากร้านสะดวกซื้อทั่วๆไปและส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีติดตัวมาตั้งแต่เกิดเหมือนกันทุกคน ดังนั้นการค้นหาจุดแข็งในด้านอื่นๆเพื่อจะเอามาทดแทนในจุดด้อยดังกล่าวจึงเป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึง "กึ๋น" ในการบริหารจัดการของผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี
ที่มา ncquity.com



ไม่มีความคิดเห็น:

ฟรีบริการเก็บสถิติเว็บไซด์ FlashSanook แฟลชเกมสนุกของคนออนไลน์