นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟินันซ่า จำกัด คาดจากนโยบายรัฐบาลในการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและความกดดันจากราคาน้ำมันและราคาอาหารจะทำให้ต้นทุนในการผลิตภาคเอกชนเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวอย่างต่อเนื่อง คาดธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปลายปี 2555
ดังนั้น เรายังคงแนะนำนักลงทุนให้ลงทุนในระยะสั้นเพื่อรอรับการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส โรล โอเวอร์ 6เดือน2 (FAM FIPR6M2) จะเปิดเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) ตั้งแต่ 26 เมษายน-8 พฤษภาคม 2555 นี้ ด้วยประมาณการผลตอบแทนที่ 3.42% ต่อปี โดยสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท นักลงทุนสามารถใช้ช่องทางการลงทุนใหม่ล่าสุดของบริษัทโดยซื้อกองทุนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต skype ได้ที่ศูนย์บริการเคทีซี ทัช 14 สาขา
โดยกองทุน FAM FIPR6M2 เป็น specific fund หรือกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน มีนโยบายที่จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและเงินต้น โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือ เงินฝาก ของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade)
ในครั้งนี้เราจะลงทุนในเงินฝากธนาคารต่างประเทศ สกุลเงิน USD หรือ CNY กับธนาคาร BOC, Macao หรือธนาคาร CIMB Niaga, Indonesia (Baa3) หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, เงินฝาก AED ธนาคาร Union National Bank, UAE(P-1), ตราสารหนี้ ธนาคารเกียรตินาคิน หรือ (EMTN) Banco Bradessco,Brazil (BBB), ตราสารหนี้, ตั๋วแลกเงิน/หรือหุ้นกู้บริษัทเอกชนที่อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ และตั๋วเงินคลังหรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ทางด้านนายสุรธีร์ กิตติวรวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ. ธนชาต จำกัด กล่าวว่า บริษัทเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดธนชาต Fixed Income16 (TFixedIncome16) ระยะเวลาลงทุนประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 3.10% ต่อปี โดยเสนอขายครั้งเดียวระหว่างวันนี้-8 พฤษภาคม 2555
โดยกองทุนมีเป้าหมายลงทุนในเงินฝากสกุลเงิน Arab Emirates Dirham ธนาคาร Union National Bank ประมาณ 20% เงินฝากสกุลเงิน Arab Emirates Dirham ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank ประมาณ 20% ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกโดย Banco do Brazil / Banco Itau BBA S.A. ประมาณ 20% ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกโดย บมจ.เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ /บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส ประมาณ 15.90%
นอกจากนี้ จะลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกโดยธนาคารกรุงไทย/ธนาคารเกียรตินาคิน ประมาณ 24.00% และลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ประมาณ 0.10% อายุประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนรวมของตราสารประมาณ 3.4565% ต่อปี โดยมีประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.1565% ต่อปี
ที่มา manager.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น