โยชิกาสึ ทานากะ เศรษฐีหนุ่มรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น รวยหมื่นล้านจากธุรกิจเกม

โยชิกาสึ ทานากะ เศรษฐีหนุ่มรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น รวยหมื่นล้านจากธุรกิจเกม
หนึ่งในรายชื่อคนรุ่นใหม่ที่รวยที่สุดในเอเชีย หนีไม่พ้นชื่อของ "โยชิกาสึ ทานากะ" ซึ่งร่ำรวยจากธุรกิจเกมส์จนมีคนเปรียบเทียบว่าเป็น "มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก" แห่งญี่ปุ่น

โยชิกาสึ ทานากะ มหาเศรษฐีรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น มีทรัพย์สินรวม 180,000 ล้านเยน หรือประมาณ 67,000 ล้านบาท จากอุตสาหกรรมเกมออนไลน์ซึ่งให้บริการแบบเครือข่าย หรือโซเชียล เน็ตเวิร์กกิง เซอร์วิส ในชื่อ "กรี" (Gree)

ทานากะเริ่มเปิดให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ในระบบเว็บบล็อก ที่เขาตั้งชื่อว่า "กรี" ในปี 2547 และได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากงานประจำ กระแสตอบรับค่อนข้างดี แต่หลังจากนั้นเขาตัดสินใจหันเหทิศทางของบริษัทมาผลิตเกมออนไลน์ทั้งแบบที่ใช้เล่นในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ


กรีเติบโตขึ้นอย่างมากหลังจากที่ร่วมทุนกับเคดีดีไอ บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งกรีกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากลิงค์บนหน้าเว็บไซต์ จากนั้น กรีก็ค่อยๆ ขยับขึ้นสู่การเป็นบริษัทผลิตเกมแนวหน้าของญี่ปุ่น และแซงหน้าบริษัทอื่นด้วยการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติ เพื่อขยายฐานผู้ใช้บริการ เช่น ร่วมเป็นหุ้นส่วนกับเท็นเซนต์ (Tencent) ผู้ให้บริการโซเชียลเน็ตเวิร์กรายใหญ่ของจีน และโอเพนเฟนต์ (OpenFeint) ผู้ผลิตเกมสำหรับโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของสหรัฐฯ

ในปัจจุบัน กรีมีมูลค่าตลาดสูงถึง 5 แสนล้านเยน หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งมูลค่าหุ้นสูงขึ้นถึง 7 เท่า เมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นที่เปิดขายครั้งแรกในปี 2551 ในอนาคตอันใกล้ ทานากะมีแผนที่จะเปิดตลาดกรีในยุโรป สหรัฐฯ และตลาดใหม่ในบราซิล เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้ถึง 1,000 ล้านคน หรือ 5 เท่าของฐานผู้ใช้บริการในปัจจุบัน

ในขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นตกต่ำอย่างมากเป็นประวัติการณ์ บริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ต่างขาดทุน จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา และได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตั้งแต่แผ่นดินไหว สึนามิ และกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ-ไดอิจิ แต่ทานากะกลับประสบความสำเร็จในการบริหารธุรกิจให้มีกำไรมหาศาลสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจญี่ปุ่น

ทานากะถ่ายทอดมุมมองทางธุรกิจของเขาผ่านสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ความอ่อนแอของบริษัทญี่ปุ่นเกิดจากมุมมองที่คับแคบล้าสมัย และไม่ยอมปรับตัวเพื่อแข่งขันกับตลาดโลก แต่เขาก็ยังหวังว่า ความสำเร็จของกรีจะช่วยเป็นแรงผลักดันทางบวกให้กับภาคเศรษฐกิจของญี่ปุ่นให้หันกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

การที่เขาประสบความสำเร็จทางธุรกิจจนสามารถขึ้นสู่ทำเนียบมหาเศรษฐีเศรษฐีอายุน้อยที่สุดในเอเชียตั้งแต่อายุ 35 ปี ทำให้เขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ซึ่งไม่เพียงแค่ทั้งสองจะแต่งกายง่ายๆ สบายๆ เหมือนกันแล้ว พวกเขายังคิดเหมือนกันว่า ธุรกิจของพวกเขาจะมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงสังคม ไม่ว่าจะเป็นในแบบเฟซบุ๊ก หรือในแบบของกรีก็ตาม

แม้ว่าในอนาคต ทานากะจะยังไม่ทราบว่า อุตสาหกรรมเกมออนไลน์จะสามารถเป็นกำลังหลักในการกอบกู้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้หรือไม่ แต่เขาก็มั่นใจว่า ธุรกิจในอุตสาหกรรมประเภทอื่นจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคจนญี่ปุ่นกลับมารุ่งเรืองขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
ที่มา http://news.voicetv.co.th/global/32968.html





ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก

ฟรีบริการเก็บสถิติเว็บไซด์ FlashSanook แฟลชเกมสนุกของคนออนไลน์