วันนี้(8 มี.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า นิตยสารฟอร์บส์ของสหรัฐได้จัดอันดับประจำปีสำหรับอภิมหาเศรษฐีโลกประจำปีค.ศ.2012 พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 1,226 คนของผู้มีรายได้เข้าขั้นอภิมหาเศรษฐี รวมรายได้แล้วเท่ากับ 4.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอภิมหาเศรษฐีโลกอันดับ 1 นั้นยังคงเป็นของนายคาร์ลอส สลิม เจ้าพ่อธุรกิจสื่อสารจากประเทศเม็กซิโก วัย 72 ปี
อันดับ 2 ยังคงเป็นของนายบิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ มีรายได้ 61,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังคงมูลค่ามหาศาลอยู่ แม้ตัวเขาจะบริจาคเงินถึง 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าการกุศลอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งการต่อสู้กับโรคเอดส์และโรคโปลิโอก็ตาม
รายได้ของทั้งสองคนนี้ อยู่อันดับ 1 และ 2 ของบัญชีรายชื่ออภิมหาเศรษฐีโลก 1,226 คน มากที่สุดก็เป็นชาวอเมริกัน 425 คน และ ในจำนวน 20 อันดับแรก เป็นชาวอเมริกันถึง 11 คน และผลจากเศรษฐกิจโลกขยายตัวในช่วงสองปีที่ผ่านมา ทำให้จำนวนอภิมหาเศรษฐีโลกเพิ่มขึ้นอีก 16 คนสำหรับปีนี้ เฉลี่ยแล้ว แต่ละคนจะมีรายได้ 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคือรัสเซีย 96 คน จีน 95 คน เยอรมัน 55 คน อินเดีย 48 คน อังกฤษ 37 คน เท่ากับฮ่องกง บราซิล 36 คน แคนาดา 25 คน ไต้หวันกับญี่ปุ่นเท่ากัน 24 คน
แต่ผู้ติดอันดับโลกหลายคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น อันดับโลกร่วงลงไปบ้างก็มี เช่น นายลักษมี มิตตาล จากอินเดีย ธุรกิจเหล็กกล้า ปรากฏว่า หลุดจาก 20 อันดับโลกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2547 เพราะหุ้นของบริษัทอาร์เซเลอร์มิตตาลของเขาตกลงไปอย่างมาก ทำให้รายได้หดหายไป 10,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ขณะนี้เขาเหลือรายได้ 20,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนั้น จำนวนอภิมหาเศรษฐีจากประเทศจีน ก็ลดลงไปด้วยผลจากตลาดหุ้นในเอเชีย จากจำนวน 115 คนของปีที่แล้ว เหลือ 95 คนในปีนี้ แต่จำนวนอภิมหาเศรษฐีจากจีนกับรัสเซีย หากรวมกันแล้ว จะมีรายได้ถึงร้อยละ 16 ของรายได้ทั้งหมดของอภิมหาเศรษฐีโลก ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในทวีปยุโรปยังทำให้จำนวนอภิมหาเศรษฐีในทวีปเอเชีย-แปซิฟิก 315 คนนั้น มีจำนวนมากกว่าของทวีปยุโรป ซึ่งมี 310 คน
ส่วนอันดับ 3 ของอภิมหาเศรษฐีโลกก็ยังคงเป็นเจ้าของตำแหน่งเดิมของปีที่แล้ว คือนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักุรกิจด้านการลงทุนชาวอเมริกัน รายได้ 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยอันดับ 4 นายแบร์นาร์ด อาร์โนลต์ จากฝรั่งเศส รายได้ 41,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ อภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่ใน 5 อันดับแรก จากประเทศสเปน นายอามันซิโอ ออร์เตก้า เจ้าของธุรกิจแฟชั่นซารา มีรายได้เพิ่มขึ้น 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่แล้ว รายได้ทั้งหมดจึงอยู่ที่ 37,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อันดับ 6 เป็นของนายแลร์รี่ เอลลิสัน จากสหรัฐ 36,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 7 นายไอค์ บาติสต้า จากบราซิล 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 8 นายสเตฟาน เพอร์สัน จากสวีเดน 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 9 นายหลี่ กา-ชิง จากฮ่องกง 25,500 ล้านดอลลาร์สหรับ และ อันดับ 10 เป็นของนายคาร์ล อัลเบรชต์ จากเยอรมนี 25,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในส่วนของประเทศไทย มีผู้ติดอันดับอภิมหาเศรษฐีโลก 5 คนด้วยกัน ประกอบด้วยนายธนินท์ เจียรวนนท์ ผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 152 ของปีที่แล้ว อยู่ที่อันดับที่ 133 ทรัพย์สิน 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 210,000 ล้านบาท ตามมาด้วยนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มตราช้าง อันดับ 184 ทรัพย์สิน 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 165,000 ล้านบาท นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลังกระทิงแดง อยู่อันดับที่ 205 ทรัพย์สิน 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 150,000 ล้านบาท อันดับที่ 683 นายอาลก โลเฮีย เจ้าของธุรกิจโพลิเอสเตอร์ ทรัพย์สิน 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 57,000 ล้านบาท และ นายกฤตย์ รัตนรักษ์ เจ้าของธุรกิจสถาบันการเงิน อันดับที่ 1,015 ทรัพย์สิน 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 36,000 ล้านบาท.
ที่มา เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น