จากเด็กเกเร มาสู่วงการเสื้อผ้า จนมียอดขายหลายล้าน ตอนที่ 2 เทคนิคการขาย ด้วยความอยาก
อออสวัสดีครับเพื่อนๆ มาถึงตอนที่2แล้ว ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้มานะครับ และกิ๊ฟที่มากมาย ก่อนจะเริ่มตอนที่2 เพื่อนๆรู้สึกอะไรไหมครับ ว่าผมกำลังสอนเทคนิคการขายให้ทุกๆท่านอยู่ ผมสอนมาติดๆกัน 2กระทู้ (หลายท่าน งง ว่าสอนตอนไหนหว่า) ผมเลยทดลองให้เพื่อนๆเห็นภาพและผ่านประสบการณ์จริงเลยครับ โดยเรื่องที่ผมจะสอนเทคนิคการขายนี้ชื่อว่า ความ “อยาก “ งง ใช่ไหมว่าความอยากมันเกี่ยวอะไร คือ ย้อนกลับไปนะครับ ผมเคยพิมพ์ไว้ที่กระทู้แรก ว่าผมเขียนไปแล้ว30% นั้นคือความจริงครับ ผมเขียนไว้แล้ว แต่ แต่ ทำไมผมไม่เอามาลง ณ วันนั้นเลย เพื่อนๆรู้สึกไหม …..
หลักการ ทำให้ อยาก นั้นทั่วโลกใช้กันหมด ลองนึกดีดี ใครใช้เก่งที่สุด …… APPLE ไงครับ ทำไม เค้าปล่อยแต่ข่าว เรื่อง iphone มาเรื่อยๆ ทั้งๆที่ไม่มีใครเคยเห็น ปล่อยจนเราเริ่มอยากได้ และที่สำคัญ พอวันเปิดตัว ผมถามครับ มีใครเคยได้ไปลองจับเล่นในวันงานบ้าง นอกจาก CEO บริษัท เค้าแค่ขึ้นบนเวที แล้วบอกว่ามันดีอย่างโน้น อย่างนี้ แล้วคุณอยากได้ไหม …อาจจะมีคนบอกว่ายังไม่อยากมาก(แต่ก็มีบางส่วนอยากได้แล้ว 555) แล้วผมถามว่าเค้าขายเลยตอนนั้นไหม เค้าไม่ขายครับ เค้าให้เรารอ จนอยากได้สุด แล้วเค้าก็ปล่อยหลังจากนั้นอีก 2 อาทิตย์หลังจากวันเปิดตัว พอปล่อยเสร็จ จะมีคนแย่งซื้อทันที เพราะความ อยาก พอมีคนแย่งซื้อเยอะ เค้าทำไงละครับ ถ้าเป็นคุณๆ คงจะรีบผลิตออกมาขาย ให้เยอะที่สุดใช่ไหม แต่ไม่ใช่ APPLE เพราะเค้าจะทำให้ตัวเค้าเองผลิตไม่ทัน(ผมว่าเป็นเทคนิคเค้านะครับ)พอขายดีดีอยู่ ก็จะมาบอกว่าของขาดตลาด (ทั้งๆที่ซุ่มทำกันมาเป็นล้านเครื่อง) แล้วคนที่ยังไม่ได้ก็จะยิ่งอยากได้อีก เทคนิคนี้จะทำให้สิ้นค้าเค้าก็จะไม่มีวันตก ไปนานมากๆ และขายได้ตลอดเวลา เพราะจะมีแต่คน อยากได้ อยากได้ และจะเลิกขาดตลาดก็ตอนเครื่องใหม่จะออก (ประมาณ2-3เดือนก่อนเครื่องใหม่มา อยู่ๆก็ไม่ขาดซะงั้น555) นี่ไงครับ พลังความอยาก เพื่อนๆลองเอาไป ปรับใช้ในการขายของแต่ละคนนะครับ
เพิ่มเติม หลายๆบริษัท ก็ใช้วิธีนี้ เช่น โดนัทเจ้าหนึ่ง กับขนมปังกาแฟใส่เนย ใช้วิธีทำให้คนอยาก โดยให้คนต่อคิว ยาวๆไปหลายเดือน ทำให้คนที่แม้ไม่ได้สนใจ ก็เกิดอยากกินจนไปต่อแถว กะเค้าด้วย
ร้านส้มตำ ร้านอาหาร ชื่อดังบางร้าน จริงๆโต๊ะ โคตรว่าง แต่ต้องแกล้งให้คนเช็คโต๊ะช้าๆ เพื่อให้คน นั่งรอหน้าร้านนิดหน่อย ทำให้คนสนใจ ทำให้คนคิดว่าอร่อยมากๆ จนมีคนรอคิว ทำให้คน อยาก กิน
และเรื่องจริงอีกเรื่อง ในวงการเสื้อผ้า ร้านขายเสื้อผ้าบางร้านยอมจ้างหน้าม้า มาแย่งเสื้อ ของตัวเองทั้งๆที่ไม่สวยเลย แต่มารุมมั่วๆให้ดูคนซื้อเยอะ แม่ค้าต่างจังหวัดมาเห็นคนรุม ก็รุมซื้อกะเค้าบ้าง ไมได้ดูเลยว่าสวยไม่สวย แค่รุม สุดท้ายกลับบ้านมาพบว่าตัวเองซื้ออะไรมาเนี่ยะ เอาไปก็ขายไม่ได้ แต่เจอเค้าใช้ความ อยาก เค้าล่อ
เอาละ ผมสอนการขายไปแล้วนะครับ ง่ายไหมครับ ที่เหลือก็อยู่ที่คุณ ว่าคุณทำให้ลูกค้าคุณ อยากได้ ยังไงแค่นั้นเอง ยิ่งของคุณดี คุณทำให้เค้าอยากได้ เค้าซื้อคุณไป ของที่ได้ไปดี เค้าก็ยิ่งบอกต่อ เค้าพาใครมาคุณก็ทำให้คนต่อๆไปอยากได้ของๆคุณ เท่านี้ คุณก็ขายได้สบาย
เอาละ มาต่อที่เรื่องของผม นะครับ (ผมลืมบอกไปว่าผมไม่ได้เอาเงินเดือนจากคุณพ่อคุณแม่ ตั้งแต่ออกจากมหาลัยแล้วนะครับ ดังนั้นการค้าขายของผมเรียกว่าหาเลี้ยงตัวเองเลยครับ) ….. หลังจาก ที่ผมขายแย่มากเรียกว่าขายไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ผมก็มาคิดว่าทำไมเราถึงขายไม่ได้เลย ผมเลยกลับไปทำการบ้านอีกครั้ง โดยการไม่ขายเสื้อผ้าในอาทิตย์ต่อมา ผมขอเสียไปหนึ่งวันเพื่อ ไปเดินดูตลาดว่าร้านที่ขายดีแต่ละร้าน เค้าขายอะไร ขายยังไง ขายแบบไหน จนผมได้ข้อคิดว่า ร้านที่ขายที่นั้น เค้าขายเสื้อผ้าแฟชั่นกัน ไม่ใช่ขายเสื้อยืดสกรีน หรือโปโลเลย (สมัยก่อนสวนจตุจักรนี่เรียกว่าเป็น ตลาดแฟชั่นอันดับ1ของเมืองไทยเลย ดังนั้นเสื้อผ้าแฟชั่นทั่วประเทศ ส่วนใหญ่มาจากสวนจตุจักร) เสื้อผ้าแฟชั่นสมัยก่อน จะนิยมใส่เหมือนเสื้อกล้าม สายเดี่ยว มีปักนิดๆ เป็นผ้าป่านสีสด กลับจากได้ข้อมูล หลายๆคนคงคิดว่าผมจะ copy ทำของเหมือนร้านอื่นๆใช่ไหมครับ และจะได้ขายดีเหมือนเค้า ผิดครับ และนั้นคือความคิดที่ผิดมากๆ เพราะถ้าการที่เราทำอะไรเรามั่วแต่ไป ก๊อปเค้า ไปตามหลังเค้า ไม่ว่ายังไง คุณก็จะแพ้เค้าไปอยู่เรื่อยๆ (การที่เราทำอะไรแตกต่างกับเค้า จะดีมากลูกค้าจะสนใจมากๆ เพื่อนๆลองคิดดู ถ้าเราไปเสื้อผ้า ในโซนนั้นมีแต่ร้านขายเสื้อยืดสีขาวล้วนทุกร้าน แต่มัร้านนึงขายเสื้อยืดเหมือนกันแต่เป็นสีดำ และมีอีกหลายสี แถมมีเสื้อเชิ้ตด้วย เพื่อนๆคิดว่าร้านนั้นจะขายดีกว่า ร้านอื่นไหมครับ นี่ไงครับเราต้องรู้แนวแล้วหาความแตกต่างให้ต่างกับร้านอื่นให้ได้)
ที่มาจากคุณ : ikhong [pantip.com]
อ่านต่อ ตอนที่ 1 , ตอนที่ 2 , ตอนที่ 3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น