จากเด็กเกเร มาสู่วงการเสื้อผ้า จนมียอดขายหลายล้าน ตอนที่ 1 หาโอกาสให้ตัวเอง
สวัสดีครับ เพื่อนๆ หลังจากที่ มีเพื่อนหลายๆคนรอ เรื่องเล่าของผม ก่อนอื่นผมคงต้องกล่าวขอบคุณ เพื่อนๆ หลายๆคน ที่เข้ามาให้กำลังใจและปูเสื่อรอกันเยอะมาก ก่อนอื่นผมขอแยกเรื่องเล่าเป็นตอนๆไปนะครับ เพราะจะได้ เข้าใจได้ง่ายและไม่เยอะสำ หรับในการอ่านจนมากกันไป งั้นขอเริ่มเลยนะครับ
ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ตอนนั้น ผมเพิ่งโดนไล่ออกจากมหาลัย ช่วงนั้นยอมรับว่าเคว้งไปเลย สำ หรับผม แต่ใจนึงก็ทำ ใจไว้แล้ว( ก็ตูไม่เคยเรียนอะไรเลยนิ) แต่ระหว่างนั้น ผมก็ได้ชอบผู้หญฺิงคนหนึ่ง (ซึ่งจุดเริ่มต้นการค้าของผมก็เกิดขึ้นตรงนี้แหละครับ)
เอาว่ะ งั้นหาอะไรทำ ดีกว่า.... แต่ตรงนี้คงเป็นคำ ถามของหลายๆคนว่า เออ แล้วตูจะไปทำ อะไรดีละ บ้านก็ไม่ได้มีกิจการอะไร ผมก็คิดไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ เพาะเห็ด เปิดร้านขายน้ำ ปั่น ร้านเช่าการ์ตูน คิดไปคิดมา ก็ยังคิดไม่ออก จน มีวันหนึ่ง ผมได้ไปเดินสวนจตุจักร ได้ไปซื้อเสื้อร้านนึง เค้าพูดขึ้นมาว่า ตัวนี้ขายดีมากเลย ขายหมดตั้งแต่เช้า นี่เพิ่งเอามาเพิ่ม ซึ่งตอนที่ผมไป เวลา 7-8โมงเช้า (ในใจผมก็คิดว่านี่จะมาหลอกตูหรอฟร่ะ นี่มันเช้ามาก) เลยตัดสินใจ ถามเค้าว่าพี่จะหมดได้ไง นี่มันเช้ามาก เค้าก็บอกว่า นี่น้องไม่รู้หรอ ว่าเค้ามีตลาดเช้า ขายได้วันหนึ่งเป็นแสนๆ
โอ้วววว คำ ว่าแสนคำ เดียวก้องหูไปตลอดทางเดิน แล้วเราจะทำ ไงละให้เข้ามาทำ ตรงนี้ ขายแบบนี้ได้ ระหว่างเดิน ผมก็ตัดสินใจในใจดังๆ ว่าเอาว่ะ ไปเป็นลูกจ้างเค้าก่อนดิ จะได้ดูดความรู้ (ตรงนี้ผมอยากให้หลายๆคน ลองเดินตามผมนะครับ การที่เราจะลงทุนทำ อะไรซักอย่าง ผมว่าเราต้องลงไปทำไปลุยก่อนว่าดีไม่ดี วิธีที่ไม่ต้องลงทุนเยอะ คือ ไปเป็นลูกน้องเค้า แต่ต้องไปเป็นลูกน้องร้านที่ขายดีดีนะครับ เราจะได้ความรู้เยอะๆ ไม่เสียค่าลงทุน แถมได้ตัง ได้ความรู้ เห็นไหม ง่ายๆ )
พอกำลังจะตัดสินใจไปเป็นลูกน้องเค้า ก็บังเอิญ ญาติผมเปิดร้านขายเสื้อผ้า ขายดีมาก ขายส่งที่สวนจตุจักร เราก็เลย ไปเป็นลูกน้องเค้าครับ (ตอนหลัง ญาติคนนี้ทะเลาะกับผมตัดขาดญาติไป ผมไม่ขอเล่านะครับว่าเพราะอะไร) วันแรก ไปพร้อมความอาย ไม่กล้า แต่ลูกค้าก็เข้ามาซื้อเรื่อยๆ ขายไปขายมา ผมดันชอบ และสนุกกับงานนี้มากๆ จบวันนั้น ผมขายปลีกได้ 12,000 ได้ ซึ่งสำ หรับเด็กอย่างผม มันเยอะมากนะครับ เรียนรู้งานขายปลีกซักสองอาทิตย์ เค้าก็ให้มาขายส่งตอนเช้า เวลาตี 2
หลังจากรับสายว่าตี 2 ผมเชื่อว่ามีหลายๆคนอาจจะยอมแพ้ นอนต่อ ไม่ไป แต่เวลานั้น โอกาสที่เราจะได้รู้งานสำ คัญอยู่ตรงหน้า ผมเลือกไปครับ (ถ้าใครมีโอกาสเข้ามาอย่าปล่อยมันไปมันอาจจะไม่กลับมาเป็นหนที่สอง) วันแรกที่ผมต้องไปทำ งาน ผมตื่นเที่ยงคืน ไปนั่งรอที่ร้านก่อนญาติผมมา คืนนั้นอาจจะเป็นเพราะผมตื่นเต้นด้วยมั้งครับ เลยมาเช้า
เช้าเที่ยงคืนเกือบตีหนึ่งที่สวนจตุจักร (เนื่องจากแต่ก่อนไม่มีแพตตินั่ม สวนจตุจักรเลยขายดีมาก) อยากบอกว่า คนเยอะมากก งานวันแรก ขายของหยิบของแทบไม่ทัน จบงาน พี่ชายบอกว่า ขายได้ สามหมื่นกว่า ผมฟังตอนนั้น อารมแบบว่า อยากขายเสื้อผ้าแล้ว ธุรกิจอะไร รายได้ดีขนาดนี้ พอเช้า`7โมง ผมไม่รอช้า เดินหาล็อคว่างทันที แต่ผมไม่มีเงินลงทุนมากนัก เลยต้องหาแค่แผงลอย แผงลอยคือล็อคว่างๆ ที่ร้านค้าไม่ได้เปิดขาย เค้าจะให้เราเช่าหน้าร้าน เช่าหน้าร้านคือ หาแผงมาเกาะราวประตูเหล็กที่ปิดอยู่ แล้วเกี่ยวขาย ค่าเช่าจะตกอยู่ประมาณ 1000-1500 การเช่าร้านผมยอมเดิน นานจนปวดขา เพียงเพื่อหาร้าน ที่ทำ เลดี
*** ตรงนี้ พ่อค้าแม่ค้าหลายคนเลือกความสบาย ไม่คิดถึงทำ เล ผมอยากจะบอกว่าการที่เรายอมเสียเวลานิดหน่อย หาทำ เลที่ดีที่สุด ต่อให้คุณขายของอะไรคุณก็จะขายง่าย คนจีนถือว่าทำ เลนี่ มีผลมากๆ เราจึงเห็นคนจีนรวยๆ ก่อนจะซื้อบ้านซื้อร้าน เค้าจะเข้ามาดูฮวงจุ้ย ก่อนเสมอ
อีกเรื่องเช่นกัน ผมจะเช่าร้านไม่เช่าแผงเลยก็ได้ แต่ผมเลือกไม่เช่า เพราะ ผมไม่เคยลงทุนด้านนี้มาก่อน ผมยอมไปช้าๆ แต่มั่นคง ดีกว่าไปเปิดร้านใหญ่ หรูหรา แต่อาจจะไปได้ไม่ดีเพราะผมไม่มีประสบการณ์ เด็กหลายคนที่เพิ่งเข้ามาวงการนี้เลือกเปิดร้าน โดยไม่มีความรู้ สุดท้ายก็พังไปหลายจนแถมติดหนี้ไปอีกหลายแสน
ผมก็พยายาม หาเบอร์โทรไป คัดร้านที่ทำ เล เท่านั้น โทรไปหาหลายเจ้าเค้าก็ ไม่ให้เช่าเพราะเค้ามีคนเช่าอยู่แล้ว แต่ผมดันไปตอนที่คนที่เช่าไม่มา ทำ ให้ผมนึกว่าไม่มีคนเช่า จน ผมเลิกคิดไปแล้ว และแล้ว ก็มีพี่คนนึงโทรกลับมา พี่คนนี้ชื่อพี่ไก่ พี่ไก่บอกผมว่า แผงที่ผมบอกสนใจ ให้เช่าได้แล้วนะเพราะคนเก่า เค้าไม่เอาแล้ว ผมดีใจแทบตัวลอย แผงเล็กๆ ของผมก็เกิดขึ้น ที่ โครงการ 18 เป็นแผงทางตรงติดกับร้านขายข้าวแกง ทำ เลตรงนี้ ดีเพราะเป็นทางหลักทางตรง แล้วก็ติดร้านข้าว ยังไงแม่ค้าพ่อค้าต้องเดินมากินข้าว แล้ว จะต้องเห็นของของผม แน่ๆ แต่สุดท้ายแล้วหนทาง ก็ไม่ได้ง่ายแบบที่คิด เพราะอะไรนะหรอ
ก็ผมไม่มีของไง ครับ ผมมีร้านแต่ไม่มีสินค้า (นั้นเป็นความคิดที่ผิด อาจจะทำ ให้เราพังได้เลย) ผมได้แผงวันเสาร์ วันอาทิตย์ผมเลย วิ่งลงไปโรงเกลือ เพื่อไปดูเสื้อผ้ามาขายก่อน สมัยนั้น เสื้อ อเบอร์คอมบี้ กำ ลังดัง ผมเลยขนแต่เสื้อพวกนั้นมาขาย เพราะคิดว่าน่าจะขายได้ เป็นเสื้อโปโล และเสื้อยืดผู้หญิง ลายน่ารักน่ารัก ราคาที่โรงเกลือ ขายถูกมาก ตัวละ 50 บาท ในหัวผมเริ่มคิดถึงกำไรแล้ว ผมว่าจะเอาไปขายส่งตัวละ ร้อย แต่วันขายจริง มันไม่ง่ายแบบนั้น ลูกค้าไม่สนเลย มีแต่มาจับแล้วก็ไม่ซื้อ แถมาต่อเหลือตัวละ ยี่สิบ แม่เจ้าาาา นี่อะไรกันนี่ สุดท้ายผมขายให้พี่ร้านตรงข้ามที่เค้าเห็นใจ อุดหนุน หนึ่งตัว 50 บาท กับ ขายขาดทุนให้ (25บาท)แม่ค้าคนนึงที่บอกว่า ถ้าลองเอาไปขายถ้าขายได้ จะมาเหมาหมด ที่ราคาตัวละ 90
น้ำ ตา เริ่มไหลริน ถ้าใครเป็นผม ผมว่า คงจะร้องไห้เหมือนกัน ใครมีโอกาสผ่านไปผ่านมาจะเห็นเด็กหนุ่มคนนึง ที่เอาเงินเก็บทั้งหมด มาลงทุนแต่ขายได้ 75 บาท วันนั้นจนถึงวันนี้ ผมได้ข้อคิดว่า ถ้าวันนั้นผมยอมแพ้ ผมก็คงต้องแพ้ไปตลอดชีวิต แต่เพียงวันนั้น ผมกลับไปด้วยความท้อก็จริง แต่ผมก็พกความสงสัยกลับไปคิดว่าทำ ไม ผมถึงขายไม่ได้
ที่มาจากคุณ : ikhong [pantip.com]
อ่านต่อ ตอนที่ 1 , ตอนที่ 2 , ตอนที่ 3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น