"เราผลิตสินค้าตุ๊กตาไม้ที่มีจุดเด่นต่างจากคนอื่นด้วยการสร้างให้ออกมาในรูปแบบตุ๊กตาไม้ที่เป็นแนวการ์ตูน ซึ่งตรงนี้ตุ๊กตาจะสามารถทำหน้าตายิ้มแย้ม และทำให้มีสีสันสดใสได้ นอกจากนี้สินค้าของเรายังมีความพิเศษตรงที่ไม่ว่าหางหรือหัวของสัตว์สามารถหมุนได้ เป็นการสร้างลูกเล่นใหม่ไม่ใช่เป็นแค่ตุ๊กตาแบบแข็งๆ" พฤษภารัตน์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอ็นไฮไลท์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าตุ๊กตาไม้ พิกเกอร์ กล่าวถึงแนวทางการสร้างความแตกต่างในการผลิตตุ๊กตาไม้ของบริษัทฯ
ส่วนการที่บริษัทฯ ต้องปรับสินค้าตุ๊กตาไม้ให้เป็นรูปแบบการ์ตูน เนื่องจากสินค้าที่ผลิตแบบเหมือนของจริงในตลาดมีอยู่มาก บริษัทฯ จึงต้องการสร้างความแตกต่างจากตลาดด้วยการทำเป็นรูปแบบการ์ตูน นอกจากนี้ยังพบว่าสินค้าที่เป็นแนวการ์ตูนยังไม่มีผู้ผลิตมากนัก อีกทั้งสามารถจับกลุ่มเป้าหมายได้ตั้งแต่เด็กเล็กๆ จนถึงผู้ใหญ่
โดยต้นกำเนิดในการคิดทำสินค้าดังกล่าวเกิดจากหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้คิดไอเดีย และออกแบบสินค้าทั้งหมด และได้เข้าไปสอนกรรมวิธีการผลิตให้ชาวบ้านในตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ชาวบ้านเป็นผู้ผลิตสินค้าให้
เมื่อสามารจับทิศทางการผลิตสินค้าได้แล้ว ยังมีการพัฒนาสินค้าของบริษัทฯ ให้มีความแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา จากเดิมที่ตุ๊กตาไม้เป็นแค่ของโชว์ได้อย่างเดียว ก็พัฒนาให้เป็นได้ทั้งของใช้และของโชว์ เพื่อให้สินค้ามีความหลากหลาย และใช้ได้มากขึ้น
โดยการพัฒนาสินค้าทุกรูปแบบจะดูจากของลูกค้า และแนวโน้ม(trend)ของตลาดเป็นหลัก เช่น ตลาดเน้นเรื่องสินค้าที่มีความคลาสสิคก็จะนำสินค้าที่ดูแล้วมีความคลาสสิคมาพัฒนาขยายมากขึ้น
"เราใช้เวลานานเหมือนกันกว่าที่สินค้าจะลงตัวทั้งหมด แต่เรายังคงพัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสี คุณภาพ การดีไซน์ โดยเราจะดูเทรนด์ของตลาด อย่างปีหน้าเป็นปีไก่เราก็ออกสินค้าที่เป็นชุดไก่ออกมาเยอะ มีตั้งแต่แจกัน ที่ใส่กระดาษทิชชู ตู้จดหมาย กล่องใส่ของ ที่แขวนกุญแจ กล่อมนามบัตร กรอบรูป และของโชว์"
สำหรับตลาดสินค้าตุ๊กตาไม้ เนื่องจากสินค้าของบริษัทฯ ไม่ใช่สินค้าที่ทำไว้เพื่อโชว์อย่างเดียว ทำให้ตลาดยังคงไปได้ดี ปัจจุบันสินค้าของบริษัทฯ มีทั้งหมดกว่า 100 แบบ โดยบางแบบจะทำขึ้นมาเพื่อเป็นต้นแบบเท่านั้น ส่วนแบบไหนที่ขายดีจะผลิตปริมาณมากเพื่อออกจำหน่าย
นอกจากนี้ การที่ลูกค้าคนไทยนิยมการตกแต่งบ้านมากขึ้น ประกอบกับโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ มีปริมาณการขายที่มากขึ้น ส่งผลให้ทำตลาดไปได้อีกไกล และสินค้าของบริษัทฯ ยังเหมาะกับการซื้อเป็นของขวัญของฝากในช่วงเทศกาลอีกด้วย
ส่วนระดับราคาสินค้าเริ่มตั้งแต่ 80-2,000 กว่าบาท โดยสินค้าระดับราคาสูงส่วนใหญ่จะมีขนาดใหญ่ และเป็นสินค้าพรีเมี่ยมจริงๆ แต่บริษัทฯ ไม่ได้ผลิตออกมามากทเพียงตัวสองตัว หรือบางอย่างเป็นการรับทำตามคำสั่งซื้อ ทั้งนี้ ราคายังขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการประดิษฐ์ด้วย เช่น ไก่เป็นสินค้าที่มีราคาแพงเพราะทำยากที่สุด ส่วนกระรอก แมว จะมีราคาถูกกว่า ปัจจุบันกำลังการผลิตมีประมาณ 2,000 ตัวต่อเดือน
สำหรับช่องทางการจำหน่ายส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในประเทศเป็นหลัก โดยส่งไปจำหน่ายยังห้างสรรพสินค้าต่างๆ เช่น เซน สยามดิสคัฟเวอร์รี่ เดอะมอลล์ บางกะปิ และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ส่วนตลาดต่างประเทศส่งออกอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องการจะจับตลาดต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจำหน่ายได้ราคาสูงกว่า
โดยช่องทางการเจาะตลาดต่างซาติที่ผ่านมา บริษัทฯ จะใช้วิธีการออกงานบิ๊ก (BIG) ของกรมส่งเสริมการส่งออก ซึ่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมามีลูกค้าที่มางานให้ความสนใจพอสมควร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ส่งสินค้าตัวอย่างไปให้กับทางประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกงและญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันยังไม่มียอดการสั่งซื้อกลับมา อีกทั้ง ได้ไปร่วมงานแฟร์กับกรมส่งเสริมการส่งออกที่ประเทศฮ่องกงและญี่ปุ่นด้วย
แม้ว่าตลาดต่างประเทศจะได้ราคาดีกว่าการจำหน่ายในประเทศ แต่บริษัทฯ ยังประสบปัญหาการกดราคาของผู้ซื้อ จึงไม่สามารถจำหน่ายให้ได้ เพราะเป็นสินค้าที่ผลิตด้วยมือทุกขั้นตอน
สำหรับพัฒนาการต่อไปของสินค้า คงจะมีการเพิ่มปริมาณการผลิตสินค้าและนำสินค้าที่มีอยู่มาพัฒนาเป็นของใช้มากขึ้น เช่น สินค้าตระกูลแมว ตระกูลกระรอก ฯลฯ เพราะสินค้าบางอย่างที่ผลิตมาแล่วแต่ยังไม่ลงตัว และบางตัวยังไม่ได้พัฒนาให้หลากหลาย และมีประโยชน์ใช้สอยเท่าที่ควร นอกจากนี้ คาดว่าต่อไปคงจะมีการพัฒนาสินค้าให้เป็นส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์ด้วย
ส่วนคู่แข่งทางตรงในปัจจุบัน ยังน้อยเพราะไม่ค่อยมีผู้ประกอบการที่ทำสินค้าเป็นแนวการ์ตูนเช่นเดียวกับบริษัทฯ แต่จะมีคู่แข่งทางอ้อมซึ่งจำหน่ายสินค้าประเภทไม้เหมือนกัน เช่น งานไม้กลึง และไม้แกะสลักต่างๆ ซึ่งมีผู้ผลิตมาก
* * * * * *
สนใจธุรกิจติดต่อโทร.0-5386-5173, www.enhighlight.com
ขอขอบคุณที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น