แนะวิธืเก็บเงินเพื่อการลงทุน

แนะวิธืเก็บเงินเพื่อการลงทุน
เก็บตังค์ : จะลงทุนทั้งที มีอะไรบ้าง?แนะ 3 ปัจจัยสำคัญที่ผู้คิดจะลงทุนต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ เพราะหากพลาดไป มีแต่เจ็บตัว!
สวัสดีผู้อ่านเดลินิวส์ออนไลน์ ขอต้อนรับเข้าสู่พื้นที่คอลัมน์น้องใหม่ “เก็บตังค์” คอลัมน์ที่จะพานักลงทุนมือใหม่ไปเรียนรู้วิธีการบริหารจัดการการเงินอย่างมีสติและครบครันด้วยข้อมูล เพื่อใช้เป็นแนวทางสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ที่ครอบครองอยู่ ก่อนก้าวสู่ถังเงินถังทองดั่งใจปรารถนา เริ่มตอนแรกกับ ประเภทการลงทุนที่ควรรู้



ก่อนจะไปสำรวจข้อดี-ข้อเสียของการลงทุนแต่ละประเภท มี สิ่งสำคัญที่นักลงทุนมือใหม่ต้องคำนึง นั่นคือ เป้าหมายการลงทุน, วัตถุประสงค์ของการลงทุน และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

3 ปัจจัยนี้สำคัญมากที่ผู้คิดจะลงทุนต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ เพราะหากลงทุนผิดพลาดไป มีแต่เจ็บตัว!!

สำหรับการลงทุนมีอยู่กว่าสิบประเภท แต่ละประเภทมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ข้อมูลบางส่วนจากเว็บไซต์ thaifinancialadvisor.com ระบุไว้น่าสนใจ ดังนี้

เงินสด การลงทุนประเภทนี้มี ข้อดีตรง หยิบง่ายใช้คลอง แต่ข้อเสียคือ เงินไม่งอกเงย จัดเก็บลำบาก และเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม

เงินฝาก (ออมทรัพย์/ประจำ) มีข้อดีที่ธนาคารทำการจัดเก็บให้เป็นระบบ สามารถเบิกถอนได้สะดวก ได้ผลตอบแทนแน่นอน ใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ มีจำนวนเงินน้อยก็ฝากได้ แต่ข้อเสียคือ ผลตอบแทนต่ำ มีความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง เมื่อครบรอบการฝากเงิน และความเสี่ยงการล้มของสถาบันการเงิน เสียภาษีดอกเบี้ย 15% ในรายที่ฝากประจำ

ตั๋วแลกเงินและบัตรเงินฝาก (B/E, NCD) ข้อดี ดอกเบี้ยสูงและมีความมั่นคง เนื่องจากธนาคารเป็นผู้ออกหรือค้ำประกันให้ เสียภาษีดอกเบี้ย 15% ข้อเสีย สภาพคล่องต่ำ เพราะต้องฝาก 1 ปีขึ้นไป และหากต้องการใช้เงินก่อนจำเป็นต้องขายลดราคา

ทองคำ ข้อดีเห็นชัดคือมีทรัพย์สินอยู่ในมือ ซื้อง่ายขายคล่อง เป็นหลักทรัพย์ที่ทั่วโลกยอมรับ ในกรณีที่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ทองคำจะเป็นแหล่งพักเงินอย่างดี ทำให้ราคาขยับสูงขึ้น และในช่วงอัตราเงินเฟ้อสูง ราคาทองก็จะสูงตาม ข้อเสีย เสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม

พันธบัตร มีข้อดีที่ความมั่นคง เนื่องจากรัฐบาลเป็นผู้ออก โดยทั่วไปให้ดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารและรับรองดอกเบี้ยในระยะเวลาที่ยาวกว่า สามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ ข้อเสีย ใช้เงินลงทุนมาก สภาพคล่องต่ำ ถ้าต้องการขายก่อนครบกำหนดสัญญา จะมีความเสี่ยงในเรื่องความผันผวนของราคาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย เพราะถ้าหากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเพิ่มขึ้น พันธบัตรที่ออกในช่วงก่อนหน้าราคาจะลดลง อีกทั้งตลาดพันธบัตรไม่ได้เป็นตลาดที่มีประสิทธิภาพ ถ้าต้องการใช้เงินเร็วๆ หรือก่อนครบกำหนดจะขายไม่ได้ราคา และต้องเสียภาษี 15%

หุ้นกู้ ข้อดีคือดอกเบี้ยสูง ข้อเสียคือ ใช้เงินลงทุนมาก สภาพคล่องต่ำ มีความเสี่ยงในเรื่องการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย เพราะเป็นลักษณะการกู้ยืมที่ไม่มีหลักประกัน มีความผันผวนของราคาหากต้องการขายออกก่อนครบกำหนด ตลาดหุ้นกู้ไม่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบริษัทที่มีพื้นฐานอ่อนจะไม่ค่อยมีการซื้อขาย ทำให้ขายไม่ได้ราคา หรือไม่มีผู้รับซื้อนั่นเอง

กองทุนตราสารหนี้ ข้อดีคือมีการบริหารผ่านมืออาชีพ มีเงินน้อยก็สามารถลงทุนได้ ซื้อขายหน่วยลงทุนได้ตลอดเวลาผ่านเคาเตอร์ธนาคารหรือตู้เอทีเอ็ม ข้อเสีย คือมีความเสี่ยงในเรื่องราคาที่ผันผวนจากการเปลี่ยนแปลงของดอกเบี้ย ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบริหาร ค่าโฆษณา และจ่ายภาษี 10% สำหรับเงินปันผล

ประเภทการลงทุน ยังไม่หมดเท่านี้ โปรดติดตามต่อสัปดาห์หน้า

นายประตู
ที่มา เดลินิวส์






ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก

ฟรีบริการเก็บสถิติเว็บไซด์ FlashSanook แฟลชเกมสนุกของคนออนไลน์